เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ใช้ TikTok @kongphop_q ของครูก้องภพ เป็นครูที่เพิ่งได้บรรจุใหม่ ได้โพสต์คลิปรีวิวโรงเรียนที่ต้องไปบรรจุ ระบุว่า ได้บรรจุครูที่โรงเรียนวัดบางชัน ซึ่งเจ้าตัวก็ยังสงสัยว่าเป็นโรงเรียนที่ไหน และพบว่าตั้งอยู่ที่ชุมชนไร้แผ่นดิน อ.ขลุง จ.จันทบุรี ทำเอาเจ้าตัวถึงกับอุทานว่า นี่มันคิดถึงวิทยา 2 ชัดๆ และไม่มีข้อมูลติดต่อได้ ไม่มีเพจโรงเรียน สิ่งแรกที่ทำคือติดต่อโฮมสเตย์แถวนั้นแล้วขอเบอร์ผู้นำหมู่บ้าน พอได้คุยแล้วก็รู้ว่า ที่นั่นไม่มีน้ำประปา มีเรือขายน้ำจืด ที่บ้านพักครูต้องเสียค่าไฟกับค่าน้ำเอง จนสุดท้ายได้กำลังใจจากเพื่อนๆ และทุกๆ คน จนตัดสินใจว่าจะไม่สละสิทธิ์ ถ้าเราสละสิทธิ์แล้วเด็กที่นั่นจะมีครูหรือไม่ เพราะในโรงเรียนมีครูแค่ 4 คน เด็ก 28 คน ซึ่งแม่ไม่อยากให้ไป อยากให้สละสิทธิ์เพราะเป็นห่วงกลัวอยู่ไม่ได้
จากนั้นก็ได้อัดคลิป EP.2 เป็นการเดินทางจาก จ.เชียงรายไปยัง จ.จันทบุรี ระยะทาง 994 กิโลเมตร ใช้เวลาถึง 12 ชั่วโมง พร้อมกับเอาของที่จำเป็นทุกอย่างไป ของที่ทำให้อยู่ได้โดยไม่เดือดร้อนอะไร แล้วก็มีกำลังใจในการสอนหนังสือเด็ก ออกเดินทางตั้งแต่ตี 2 โดยมีพ่อแม่ไปส่ง และอยู่ด้วยกันสักพักนึง ซึ่งเจ้าตัวก็พยายามคิดว่าทำไมถึงออกจากเซฟโซน ทำทุกอย่างเพื่อเด็กได้ขนาดนี้ เพราะเราเป็นครูนี่เอง
จากนั้นเดินทางจากที่พักไปที่ท่าเรือปลายจัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า และได้ติดต่อเจ้าของเรือไว้แล้ว และนั่งเรือไปโรงเรียนใช้เวลา 30-40 นาที เพราะเป็นวิธีเดียวที่สามารถไปโรงเรียนได้ ก่อนจะมีครูที่อยู่มาก่อนช่วยแนะนำ พอเข้าอยู่บ้านพักก็รู้สึกว่าดี ไม่ได้เหมือนกับในหนังเรื่องคิดถึงวิทยา เขาปรับปรุงให้เราใหม่ และน่าอยู่มาก ทำเอารู้สึกดึขึ้นมาก และมีกำลังใจที่จะสอนหนังสือเด็ก หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
ที่มา ; มติชนออนไลน์ วันที่ 4 สิงหาคม 2566
เกี่ยวข้องกัน
งานนี้ไม่ง่าย! เปิดภาพครูบรรจุใหม่ ไม่ท้อ ฝ่าเส้นทางทรหด เพื่อสอนนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร
เรียกเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตจำนวนมาก หลังเพจ “สวท.แม่สะเรียง” โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า
“#สอบครูว่ายากแล้ว #เป็นครูยากไปอีก #ครูดอย ครูอ๊อฟ เผยเส้นทางการบรรจุครูครั้งแรกในชีวิต กว่าจะได้มาเป็นครูไม่ง่าย
เพจวิถีกะเหรี่ยง และเพจจูจี้สาวดอย ได้เผยแพร่ภาพชาวบ้าน บ้านทิยาเพอและบ้านห้วยไชยงศ์ มารอรับคุณครูบรรจุใหม่ และช่วยขนของลากมอเตอร์ไซค์ เพื่อให้ผ่านช่วงที่มีดินสไลด์ ระหว่างเส้นทางเลโค๊ะ – บ้านทิยาเพอ ระยะทาง 10 กิโลเมตร ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้หมดในขณะนี้ การเดินทางยังคงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ยังคงเหลือจุดที่ดินสไลด์อีก 3 จุด ที่เครื่องจักรยังไม่สามารถเปิดเข้าไปในพื้นที่ได้
ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสอบถาม คุณครูพรศักดิ์ พรหมเสน หรือ ครูอ๊อฟ 1 ใน 6 ของครูบรรจุใหม่ ที่ได้ลงบันทึกการเดินทาง สนุกสุดเหวี่ยง ผ่านเฟซบุ๊ก พระยา หงส์แดงฯ เป็นภาพการเดินทางเข้าพื้นที่กับเพื่อน ๆ ครูบรรจุใหม่ จำนวน 6 คน บรรจุรับราชการ ณ โรงเรียนบ้านทิยาเพอ และโรงเรียนสาขาบ้านห้วยไชยยงค์ ต.สบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 คณะครูบรรจุใหม่สามารถเดินทางมาถึงโรงเรียนที่สอบบรรจุได้
ครูอ๊อฟ เปิดเผยว่า “ดีใจที่จะได้นำความรู้ความสามารถมาเพิ่มศักยภาพ และการเรียนรู้ให้กับเด็ก ๆ ที่อยู่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร ให้เด็กนักเรียนได้เห็นสังคมและวัฒนธรรมที่กว้างมากขึ้น จากช่องทางการสื่อสารในปัจุบัน คิดว่าจะทำให้นักเรียนและชุมชน ได้รับประโยชน์จากพวกเราให้มากที่สุด”
นอกจากนี้ทางเพจ “จู้จี้ สาวดอย ” ได้โพสต์คลิป ระหว่างที่เหล่าครูบรรจุใหม่ กำลังขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นดอยเพื่อจะไปสอนนักเรียนด้วย
ที่มา ; มติชนออนไลน์ วันที่ 9 สิงหาคม 2566
ข่าวเกี่ยวกัน
เดินทาง 10 ชั่วโมงไม่หวั่น! ครูบรรจุใหม่ ขอลุยน้ำ ฝ่าโคลน สอนน.ร.ใน อ.แม่สะเรียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจเฟซบุ๊ก “สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 กรมประชาสัมพันธ์” โพสต์ภาพและเรื่องราวสุดประทับใจของครูบรรจุใหม่
โดยระบุว่า “ครูชายขี่ครูหญิงซ้อน ครูบรรจุใหม่ เดินทางผ่านป่าใหญ่ เส้นทางลุยน้ำฝ่าโคลน เพื่อมาเป็นครูให้เด็กๆ ที่โรงเรียนบ้านจอซิเดอร์เหนือ และห้องเรียนสาขาบ้านจอซิเดอร์ใต้-บ้านอุนู ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยใช้เวลาจากตัว อ.แม่สะเรียง กว่า 10 ชั่วโมง”
หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น “ครูน่ารัก หัวใจล้วนๆนับถือค่ะ” “สู้ๆนะคะคุณครูคนใหม่ อีแม่เคยผ่านมาหมดแล้ว รอเกษียณแล้วค่ะตอนนี้ 41 ปี 4 เดือน เขาคิดให้เป็น 42 ปีเป๊ะๆเวลาทำงาน” “สู้นะคุณครูคนใหม่”
“สู้ๆนะคะ ครูรุ่นแม่ผ่านมาหมดแล้วตอนนี้เกษียนได้พักผ่อนนึกย้อนอดีตก็รู้สึกภูมิใจที่เราทำได้ตามอุดมการณ์ของคนเป็นครูตัดผมและอาบน้ำให้เด็กชาวเขาก่อนกลับบ้านก็ทำมาแล้วค่ะ” “สู้ครับคุณครู เพื่อสร้างฝันให้เด็กน้อย” “สู้ๆจ้าคุณครูใหม่เป็นกำลังใจจ้า”
ที่มา ; มติชนออนไลน์ วันที่ 11 สิงหาคม 2566
เกี่ยวข้องกัน
‘ตรีนุช’ ร่วมยินดีบรรจุครูใหม่ สระแก้ว ฝากขยันเก็บเกี่ยวประสบการณ์-พัฒนาการศึกษา
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่หอประชุมรวมใจภักดิ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว (สพป.สระแก้ว) เขต 1 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมพัฒนาการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม “ครูผู้ช่วย สู่การเป็น ครูมืออาชีพ” ว่า ขอแสดงความยินดีกับครูผู้ช่วย ของ สพป.สระแก้วเขต 1 จำนวน 245 คน ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในปีงบประมาณ 2566 นี้ ที่จะมาร่วมเป็นพลังสำคัญ ร่วมเป็นทีมพัฒนาเด็กๆ ซึ่งสระแก้ว เป็นจังหวัดชายแดนเล็กๆที่มีศักยภาพซ่อนอยู่ในพื้นที่มากมาย เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในมิติเศรษฐกิจ การค้า ความมั่นคง มีทรัพยากรธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติปางสีดา เป็นผืนป่ามรดกโลก มีมรดกทางวัฒนธรรม ด้วยตั้งอยู่บนพื้นที่แหล่งอารยธรรมขอม – เขมรโบราณ เราต้องช่วยกันพัฒนาลูกหลานชาวสระแก้วให้เข้มแข็งด้วยการศึกษา เพื่อพัฒนาเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพได้
น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า ในอดีตหลายสิบปีก่อนหลายพื้นที่ถนนเป็นดินลูกรัง บางโรงเรียนน้ำไฟ สาธารณูปโภค ยังลำบาก ขาดความพร้อมด้านอาคารสถานที่ สื่อ อุปกรณ์การเรียน แต่ภาพการศึกษาของจังหวัดสระแก้วในวันนี้ เปลี่ยนไป มีการพัฒนาทั้งด้านคุณภาพ และกายภาพ ยกระดับคุณภาพการศึกษาสระแก้วอย่างครบวงจร ซึ่งสระแก้วได้รับการประกาศเป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 1 ใน 19 จังหวัดทั่วประเทศ ให้อำนาจแก่ครูและผู้บริหารโรงเรียน สามารถบริหารงานได้อย่างอิสระ โรงเรียนและชุมชนสามารถร่วมกันกำหนดเป้าหมาย รูปแบบการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับบริบทและความต้องการของชุมชนได้ ทุกหน่วยงานการศึกษาของสระแก้ว สามารถบูรณาการทิศทาง เป้าหมายและแนวทางการทำงานร่วมกัน ภายใต้ “สระแก้วโมเดล” รวมถึงมีเครือข่าย “กลุ่มโรงเรียนคุณภาพ” เป็นต้นแบบการบริหารการศึกษาของประเทศ ในการใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา
“ วันนี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มาพบคุณครูบรรจุใหม่ ผู้ซึ่งมีความรู้ความสามารถ เป็นพลัง มีไฟ ดิฉันขอฝากน้องๆที่กำลังเริ่มต้นก้าวแรกการทำงาน ในฐานะ “ข้าราชการครู” ว่า วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพที่มีความสำคัญ พลังที่เกิดจากการลงแรงลงใจของครู ไม่เพียงทำให้เด็กคนหนึ่ง อ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น มีวิชาชีพ แต่ความรู้ที่ครูให้ อุปนิสัยที่ครูบ่มเพาะ อาจพลิกชีวิตของเด็กคนนั้น เปลี่ยนโชคชะตาของทั้งครอบครัว คำว่า ครูคือวิชาชีพที่สร้างโลก พลิกโลก จึงไม่เกินจริง แต่ความยาก คือ งานการศึกษาไม่ใช่งานที่ทำวันนี้ เห็นผลวันนี้ กว่าเด็กแต่ละคนจะเรียนรู้ เข้าใจ คิดทำสิ่งที่ดีงามได้ ไม่ง่าย ต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ เทคนิค ที่หลากหลาย จึงขอคุณครูบรรจุใหม่ ใช้ช่วงเวลาระหว่าง การเป็นครูผู้ช่วยนี้ ให้เป็นเวลาทองในการเรียนรู้และพัฒนาตน สิ่งที่ได้เรียนจากมหาวิทยาลัย หรือประสบการณ์จากการฝึกสอน เป็นเพียงทฤษฎีหรือพื้นฐานเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น การจะพัฒนาตนสู่การเป็น “ครูมืออาชีพ” นั้น ประสบการณ์ เป็นสิ่งที่สำคัญให้พาไปตนเองไปเรียนรู้ สร้างและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด เพิ่มโอกาสการเรียนรู้ ช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น ว่าเรามีทักษะ หรือความถนัดในด้านไหน ชอบไม่ชอบอะไร การทำงานร่วมกับผู้อื่นทั้งในและนอกโรงเรียน ช่วยให้เราได้เรียนรู้ วิธีคิด วิธีการทำงานของคนอื่นๆ ได้พัฒนาทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น สร้างเครือข่าย การทำงานที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตขึ้นไปในอนาคต และหากมีแนวคิด วิธีการ ไอเดียดีๆก็สามารถนำเสนอ รมว.ศธ.ได้เพราะเราเป็น ทีมเดียวกัน ” น.ส.ตรีนุช กล่าว